Wednesday, October 5, 2011
Tax Deductible Expenses
รายการที่สามารถนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้
1. ค่าเดินทางไปรับการรักษาพยาบาล เช่น ค่าทางด่วน ค่าที่จอดรถ ค่าน้ำมันถ้าคุณขับรถไปเอง ค่าห้องแล็บและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เบิกจากประกันไม่ได้
2. medical aids ที่หมอสั่ง เช่น ไม้เท้า วอล์คเกอร์ เก้าอี้เข็น รองเท้าสำหรับคนที่กระดูกเบี้ยวผิดรูป ฯลฯ
3. เครื่องช่วยฟัง แว่นสายตา คอนแทคเลนส์
4. ค่าใช้จ่ายในการเข้าโปรแกรมสุขภาพ เช่น โปรแกรมเลิกเหล้า เลิกบุหรี่ สารเสพติด ที่ไม่สามารถเบิกจากประกันของคุณได้
5. ค่าเล่าเรียนสำหรับส่วนที่ต้องเรียนเพื่อพัฒนาให้ทันยุคกับงานประจำที่ทำ อยู่ หากนายจ้างไม่ส่งไปเทรนงาน คุณต้องขวนขวายเรียนเอง ส่วนนี้นำมาหักลดหย่อนได้ค่ะ
6. วารสารและสิ่งตีพิมพ์ที่เกี่ยวกับงาน เช่น ถ้าคุณเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน หรือเป็นโบรคเกอร์หุ้น คุณบอกรับหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal หรือคุณทำงานด้าน Healthcare ละคุณบอกรับวารสารทางการแพทย์ อย่างนี้คุณนำมาหักได้
7. ถ้าคุณเป็นนักลงทุน และคุณเก็บเอกสารทั้งหมดไว้ในตู้นิรภัยที่แบงค์ ค่าเช่าตู้นิรภัยสามารถนำมาหักลดหย่อนได้
8. ถ้าคุณทำงานที่ต้องมีเครื่องแต่งกายเฉพาะ และไม่ใช่เสื้อผ้าที่สามารถใส่ออกมาเดินที่ถนนได้ เช่น คุณแสดงโชว์แบบปลุกใจเสือป่า หากนายจ้างไม่จัดหาหรือจ่ายส่วนนี้ให้ คุณสามารถนำมาหักลดหย่อนได้
9. ค่าสมาชิกสหภาพแรงงาน
10. ค่าใช้จ่ายในการหางาน นับตั้งแต่การพิมพ์ ส่งจดหมาย โทรศัพท์ ฯลฯ (ต้องทำรายการมานะคะ ว่าเมื่อไหร่บ้าง)
11. ถ้าคุณทำธุรกิจ ค่าของขวัญที่ให้สมนาคุณลูกค้า สามารถนำมาหักลดหย่อนได้ $25 ต่อราย
12. ค่าบริการโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในงานตามจริง
13. ถ้าคุณเป็น Self-employed คือทำธุรกิจส่วนตัว ครึ่งหนึ่งของ self-employment tax นำมาหักลดหย่อนได้
14. Self-employed health insurance premiums และ long-term care insurance premiums โดยต้องไม่เกินเกณฑ์ต่อปี
15. ค่าจ้างผู้ให้บริการทำภาษี ค่าปรึกษา สามารถนำมาหักลดหย่อนได้
16. ค่าจ้างแม่บ้านหรือพี่เลี้ยงเด็ก ในช่วงที่คุณทำงาน สามารถนำมาหักลดหย่อนได้
17. ค่าปรับในกรณีที่คุณถอนเงิน 401 หรือเงินฝากประจำใดๆ ก่อนกำหนด
18. ภาษีเงินได้ส่วนของรัฐที่ค้างชำระจากปีกลาย และเพิ่งมาชำระเมื่อปีที่ผ่านมา
19. ค่าน้ำมันรถในกรณีที่ใช้รถส่วนตัวในงานการกุศล และไม่ได้รับค่าตอบแทน
20. เงินที่เสียไปกับการพนัน
21. ถ้าคุณหางานโดยใช้เอเย่นต์ และต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นเพื่อให้ได้งาน สามารถนำมาหักลดหย่อนได้
22. ถ้าคุณใช้บ้านเป็นที่ทำงานด้วย (มีเงื่อนไขและวิธีการคำนวณ และต้องได้ตามข้อกำหนดเรื่องสถานที่และการจัดสรรพื้นที่ใช้สอย)
23. เงินหรือสิ่งของที่บริจาคให้องค์กรการกุศล
24. ถ้าคุณเป็นอาสาสมัครของ National Guard และต้องค้างคืนในกิจกรรมนั้น ค่าเดินทางสามารถนำมาหักลดหย่อนได้
25. หุ้น หรือ securities ที่ราคาตกจนไม่เหลือ แต่ต้องตรงตามข้อกำหนดอื่น เช่น บริษัทนั้นเลิกกิจการหรือล้มละลายไปแล้ว ฯลฯ
Friday, September 2, 2011
Who Needs To File Tax Return
หน้าที่หลักของพลเมืองอเมริกันที่สำคัญอย่างหนึ่งคือการเสียภาษี ตามข้อเท็จจริงบางคนอาจจะไม่ต้องยื่นแบบภาษีตอนสิ้นปี หากมีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์กำหนดคือ
*คนโสดอายุต่ำกว่า 65 ปีที่มีรายได้ต่ำกว่า $9,350/ปี
*คนโสดที่มีอายุเกิน 65 ปี และมีรายได้ต่ำกว่า $10,750/ปี
*หัวหน้าครอบครัวที่มีอายุต่ำกว่า 65 ปีที่มีรายได้ต่ำกว่า $12,050/ปี
*หัวหน้าครอบครัวที่มีอายุเกิน 65 ปี และมีรายได้ต่ำกว่า $13,450/ปี
*คู่สมรสที่ยื่นแบบภาษีร่วมกัน และมีรายได้ต่ำกว่า $18,700/ปี
*คู่สมรสที่ยื่นแบบภาษีร่วมกันแต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน $3,650/ปี
*คู่สมรสที่ยื่นแบบภาษีร่วมกัน คนหนึ่งมีอายุเกิน 65 ปี และมีรายได้รวมต่ำกว่า $19,800/ปี
*คู่สมรสที่ยื่นแบบภาษีร่วมกัน อายุเกิน 65 ปีทั้งคู่ และมีรายได้ต่ำกว่า $20,900/ปี
*คู่สมรสที่ยื่นแยกกัน $3,650/ปี
แต่ทั้งนี้ก็ยังมีเงื่อนไขว่าคุณต้องยื่นแบบภาษีถึงแม้ว่าจะมีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์กำหนด ถ้าเข้าข่ายข้อหนึ่งข้อใดต่อไปนี้ คือ
*คุณมีคุณสมบัติที่จะได้รับ tax refund เช่น คุณทำงานเป็นลูกจ้างในระหว่างปี และนายจ้างได้หัก ณ ที่จ่าย นำส่ง IRS และ State
*คุณมีสิทธิได้รับ earned income tax credit (EITC) ซึ่งเป็นเครดิตที่รัฐบาลช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย
*คุณทำกิจการของตนเองและในระหว่างปี คุณมีรายได้เกิน $400/ปี
*คุณค้างจ่ายภาษีอื่นๆ หรือคุณค้างจ่ายภาษี Social Security and Medicare tax เช่น คุณไม่ได้แจงภาษีในส่วนรายได้ที่มาจากทิป เป็นต้น
นอกจากนั้นยังมีเหตุผลอื่นๆ ที่คุณจะต้องยื่นแบบภาษี ถึงแม้ว่าจะมีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์มากๆ ก็คือ หากคุณกำลังจะยื่นขอใบเขียว หรือทำซิติเซ่น ทั้งตัวคุณ และสปอนเซ่อร์ของคุณจะต้องมีหลักฐานการเสียภาษีย้อนหลังสามปี
สำหรับผู้ที่มีสถานะเป็นคนต่างด้าว คือผู้ที่ถือวีซ่าชั่วคราว เช่น วีซ่าท่องเที่ยว หรือวีซ่านักเรียน ถ้าคุณทำงานและมีรายได้เกินกว่า $600/ปี คุณต้องยื่นแบบภาษี ถ้าคุณไม่มีหมายเลขโซเชี่ยล คุณสามารถทำเรื่องขอหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (ITIN) ได้ค่ะ
หากคุณมีสถานะเป็นคนต่างด้าว แต่มีวีซ่าที่ทำงานได้ เช่น Au Pair, Work & Travel, Internship คุณสามารถยื่นขอหมายเลขโซเชี่ยลได้ และรายได้จากการทำงานนั้น ต้องเสียภาษี เพียงแต่คุณจะได้สิทธิไม่ต้องเสียภาษี Social Security and Medicare tax ค่ะ
หากคุณมีคำถาม อีเมล์คำถามของคุณมาได้ที่ jamie@ez-legal.net แล้วจะมาตอบให้ในคราวหน้าค่ะ
Friday, August 26, 2011
Tip Income
Q: สวัสดีค่ะ ดิฉันเพิ่งเรียนจบโทและอยู่ในช่วง process ของการรอบัตร opt ตอนนี้ทำงานพาร์ทไทม์อยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ชิคาโก้ ได้เงินสดจากทิป และได้ค่าจ้างรายชั่วโมงเป็นเช็ค ได้ประมาณชั่วโมงละ สี่เกือบห้าบาท
ช่วง summer ค่อนข้างยุ่ง ทำให้ได้เงินสดจากทิปเยอะพอสมควร เจ้าของร้านเป็นคนไต้หวันบอกว่า ได้ทิปเยอะก็ต้องจ่าย tax เยอะ เช็คดิฉันได้เป็นศูนย์ติดต่อกันสี่ครั้ง (เช็คออกเดือนละสองครั้ง) อยากทราบว่าเป็นไปได้มั้ยคะ ที่ค่าขั่วโมงจะถูกหักไปจนเหลือศูนย์ ทำงานประมาณ สามสิบห้าถึงสี่สิบขั่วโมงต่อวีค
แล้วที่ร้านมีการหักเข้า house 3% bus 2% จากยอดขาย การหักเข้า house ผิดกฎหมายมั้ยคะ
A: ประเด็นนี้เป็นปัญหาหลักอย่างหนึ่งของคนทำงานร้านอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานอย่างถูกต้องมักประสบบ่อยๆ คือถูกนายจ้างโกง ดิฉันเคยเจอประเภท รับนักเรียนมาทำงาน แต่ไม่ให้ค่าแรงรายชั่วโมง ให้รอแบ่งทิปอย่างเดียว หรือให้ค่าแรงแต่ต่ำกว่าเกณฑ์ เช่น $8.00/ชม+ทิป ก็จ่ายแค่ $2.50/ชม+ทิป ซึ่งร้านก็ไม่ได้ขายดีมากมาย
ในชิคาโก ค่าแรงขั้นต่ำสำหรับงานที่มีรายได้จากทิปด้วยคือ 4.95/ชม + ทิป ดังนั้นรายได้ในส่วนนี้ของคุณถูกต้องแล้วนะคะ ส่วนรายได้จากทิปเป็นรายได้ที่ต้องเสียภาษี แต่วิธีการสำแดงรายได้นั้นขึ้นอยู่กับเจ้าของกิจการ และขึ้นอยู่กับว่าคุณจะตกลงกันอย่างไร เช่น
* ให้คุณเป็นเงินสด คุณไปจัดการเรื่องภาษีส่วนนี้เอาเอง นายจ้างออก W-2 ให้เฉพาะในส่วนค่าแรงรายชั่วโมง หรือ
* ให้คุณเป็นเงินสด ไม่หัก แต่เวลาออก W-2 เขาจะระบุลงไปด้วยว่ารายได้รายชั่วโมงของคุณเท่าไหร่ รายได้จากทิป เท่าไหร่ หรือ
* ให้คุณเป็นเงินสด แต่ทำรายการหักเรียบร้อย วิธีนี้ใน W-2 จะมีรายการหัก ณ ที่จ่ายที่นำส่ง IRS ให้ชัดเจนทั้งสองรายการ
ถ้าลูกค้าจ่ายทิปด้วยเงินสด นายจ้างไม่มีสิทธิหักเงินทิป 3% หรือ 2% อย่างที่คุณว่ามานะคะ
อัตราภาษีที่หัก ณ ที่จ่าย โดยทั่วไป รวมแล้วตกที่ประมาณ 25% ของรายได้รวม (Federal tax + Social Security + Medicare + State tax) ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะได้รับเช็คเป็นศูนย์
ถ้าคุณมีหลักฐาน เช่น การบันทึกเวลาเข้าออก ยอดทิปที่นับได้ในแต่ละวัน และหลักฐานอื่นๆ หรือเพื่อนร่วมงานที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน แนะนำว่าให้ทำตามขั้นตอน คือ รวมตัวกันเจรจากับเจ้าของร้าน ถ้าไม่ได้ผลหรือเพื่อนไม่เอาด้วย ให้นำพยานหลักฐานทั้งหมด ร้องเรียนต่อ Labor Department ในเคาน์ตี้ที่คุณอยู่ ไม่ต้องใช้ทนายค่ะ
อนุเคราะห์ข้อมูลโดย http://www.lawanwadee.com/
ช่วง summer ค่อนข้างยุ่ง ทำให้ได้เงินสดจากทิปเยอะพอสมควร เจ้าของร้านเป็นคนไต้หวันบอกว่า ได้ทิปเยอะก็ต้องจ่าย tax เยอะ เช็คดิฉันได้เป็นศูนย์ติดต่อกันสี่ครั้ง (เช็คออกเดือนละสองครั้ง) อยากทราบว่าเป็นไปได้มั้ยคะ ที่ค่าขั่วโมงจะถูกหักไปจนเหลือศูนย์ ทำงานประมาณ สามสิบห้าถึงสี่สิบขั่วโมงต่อวีค
แล้วที่ร้านมีการหักเข้า house 3% bus 2% จากยอดขาย การหักเข้า house ผิดกฎหมายมั้ยคะ
A: ประเด็นนี้เป็นปัญหาหลักอย่างหนึ่งของคนทำงานร้านอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานอย่างถูกต้องมักประสบบ่อยๆ คือถูกนายจ้างโกง ดิฉันเคยเจอประเภท รับนักเรียนมาทำงาน แต่ไม่ให้ค่าแรงรายชั่วโมง ให้รอแบ่งทิปอย่างเดียว หรือให้ค่าแรงแต่ต่ำกว่าเกณฑ์ เช่น $8.00/ชม+ทิป ก็จ่ายแค่ $2.50/ชม+ทิป ซึ่งร้านก็ไม่ได้ขายดีมากมาย
ในชิคาโก ค่าแรงขั้นต่ำสำหรับงานที่มีรายได้จากทิปด้วยคือ 4.95/ชม + ทิป ดังนั้นรายได้ในส่วนนี้ของคุณถูกต้องแล้วนะคะ ส่วนรายได้จากทิปเป็นรายได้ที่ต้องเสียภาษี แต่วิธีการสำแดงรายได้นั้นขึ้นอยู่กับเจ้าของกิจการ และขึ้นอยู่กับว่าคุณจะตกลงกันอย่างไร เช่น
* ให้คุณเป็นเงินสด คุณไปจัดการเรื่องภาษีส่วนนี้เอาเอง นายจ้างออก W-2 ให้เฉพาะในส่วนค่าแรงรายชั่วโมง หรือ
* ให้คุณเป็นเงินสด ไม่หัก แต่เวลาออก W-2 เขาจะระบุลงไปด้วยว่ารายได้รายชั่วโมงของคุณเท่าไหร่ รายได้จากทิป เท่าไหร่ หรือ
* ให้คุณเป็นเงินสด แต่ทำรายการหักเรียบร้อย วิธีนี้ใน W-2 จะมีรายการหัก ณ ที่จ่ายที่นำส่ง IRS ให้ชัดเจนทั้งสองรายการ
ถ้าลูกค้าจ่ายทิปด้วยเงินสด นายจ้างไม่มีสิทธิหักเงินทิป 3% หรือ 2% อย่างที่คุณว่ามานะคะ
อัตราภาษีที่หัก ณ ที่จ่าย โดยทั่วไป รวมแล้วตกที่ประมาณ 25% ของรายได้รวม (Federal tax + Social Security + Medicare + State tax) ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะได้รับเช็คเป็นศูนย์
ถ้าคุณมีหลักฐาน เช่น การบันทึกเวลาเข้าออก ยอดทิปที่นับได้ในแต่ละวัน และหลักฐานอื่นๆ หรือเพื่อนร่วมงานที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน แนะนำว่าให้ทำตามขั้นตอน คือ รวมตัวกันเจรจากับเจ้าของร้าน ถ้าไม่ได้ผลหรือเพื่อนไม่เอาด้วย ให้นำพยานหลักฐานทั้งหมด ร้องเรียนต่อ Labor Department ในเคาน์ตี้ที่คุณอยู่ ไม่ต้องใช้ทนายค่ะ
อนุเคราะห์ข้อมูลโดย http://www.lawanwadee.com/
Tax Refund เงินนี้ของใคร
บ่อยครั้งพบว่าถูกนายจ้างเอาเปรียบค่าแรง และสิทธิอันพึงมีพึงได้อื่นๆ ตามกฏหมายแรงงาน ดิฉันอยากให้บทความนี้เป็นความรู้แก่ทุกคนที่ทำงานในอเมริกาได้เข้าใจ และจะได้ไม่ถูกนายจ้างเอาเปรียบอีกต่อไป
ประเด็นที่จะพูดถึงวันนี้คือ ลูกจ้างที่เป็นคนไทยหลายๆ คน พอสิ้นปียื่นแบบภาษี พอได้เงินคืน ต้องเอาไปคืนให้นายจ้าง อันนี้ไม่ถูกนะคะ
ในฐานะลูกจ้าง ปกติแล้วเมื่อคุณทำงาน จะรับค่าจ้างจะเป็นต่อวีคหรือต่อเดือนก็ตาม รายได้ของคุณจะถูกหักตามอัตราส่วนดังนี้คือ
1. ภาษีเงินได้ของรัฐบาลกลาง 10%-35% ขึ้นอยู่กับรายได้ว่ามากน้อยแค่ไหน เช่น ถ้าคุณมีรายได้ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นหกร้อยเหรียญต่อปี เป็นโสด คุณจะถูกหัก ณ ที่จ่าย 10% ถ้าเกินนี้ แต่ต่ำกว่าสามหมื่นหกพันหกร้อย คุณจะถูกหัก ณ ที่จ่าย 15% เป็นต้น
2. เงินโซเชี่ยล 6.2 %
3. เมดิแคร์ 1.45 %
4. ภาษีเงินได้ของรัฐ ตั้งแต่ 1% ถึง 12% ขึ้นอยู่กับรายได้ว่ามากน้อยแค่ไหน
จำนวนเงินที่หัก ณ ที่จ่ายนี้ขึ้นอยู่กับสถานะของคุณด้วยว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ดังนั้นจึงควรอัพเดท W-4 ให้เป็นปัจจุบันทุกหกเดือน เพื่อที่คุณจะได้ไม่ถูกหักมากเกินไป หรือถูกหักน้อยเกินไปจนต้องไปจ่ายเพิ่มตอนปลายปี นายจ้างเมื่อหักภาษีจากเงินค่าจ้างของคุณ จะต้องนำส่งให้ IRS และนายจ้างจะต้องออก W-2 ให้คุณเป็นหลักฐาน ทุกคนจะต้องได้รับ W-2 ภายในวันที่ 30 มกราคม
พอสิ้นปี คุณต้องยื่นภาษี หรือที่เรียกกันว่าทำ Tax Return การยื่นแบบภาษีเป็นการยืนยันจำนวนภาษีที่คุณต้องเสียจริงในรอบปีภาษีนั้นๆ ถ้าคุณหัก ณ ที่จ่ายเอาไว้น้อย คุณก็จะต้องจ่ายภาษีเพิ่ม แต่ถ้าคุณหัก ณ ที่จ่ายเอาไว้มากกว่าความเป็นจริง คุณก็จะได้รับเงินคืน
เงิน Tax Return ที่คืนมานี้เป็นเงินของคุณ มาจากจำนวนที่เขาหักจากรายได้ที่คุณได้รับในแต่ละงวด ไม่ใช่เงินของนายจ้าง ดังนั้นคุณไม่ต้องนำไปคืนให้นายจ้าง ถ้าหากนายจ้างของคุณสั่งว่าต้องเอามาคืน แนะนำว่าให้ร้องเรียนไปที่สำนักงานของกระทรวงแรงงาน ในเคาน์ตี้ที่คุณทำงานอยู่ค่ะ
หากคุณมีปัญหาเรื่องภาษี หรือนายจ้างกดขี่ไม่เป็นธรรม หรือนายจ้างหลบเลี่ยงภาษีและทิ้งให้เป็นภาระของคุณ ไม่ทราบว่าจะหาทางออกอย่างไร ติดต่อดิฉันได้ที่ us.tax515@gmail.com ค่ะ
อนุเคราะห์ข้อมูลโดย http://www.lawanwadee.com
ประเด็นที่จะพูดถึงวันนี้คือ ลูกจ้างที่เป็นคนไทยหลายๆ คน พอสิ้นปียื่นแบบภาษี พอได้เงินคืน ต้องเอาไปคืนให้นายจ้าง อันนี้ไม่ถูกนะคะ
ในฐานะลูกจ้าง ปกติแล้วเมื่อคุณทำงาน จะรับค่าจ้างจะเป็นต่อวีคหรือต่อเดือนก็ตาม รายได้ของคุณจะถูกหักตามอัตราส่วนดังนี้คือ
1. ภาษีเงินได้ของรัฐบาลกลาง 10%-35% ขึ้นอยู่กับรายได้ว่ามากน้อยแค่ไหน เช่น ถ้าคุณมีรายได้ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นหกร้อยเหรียญต่อปี เป็นโสด คุณจะถูกหัก ณ ที่จ่าย 10% ถ้าเกินนี้ แต่ต่ำกว่าสามหมื่นหกพันหกร้อย คุณจะถูกหัก ณ ที่จ่าย 15% เป็นต้น
2. เงินโซเชี่ยล 6.2 %
3. เมดิแคร์ 1.45 %
4. ภาษีเงินได้ของรัฐ ตั้งแต่ 1% ถึง 12% ขึ้นอยู่กับรายได้ว่ามากน้อยแค่ไหน
จำนวนเงินที่หัก ณ ที่จ่ายนี้ขึ้นอยู่กับสถานะของคุณด้วยว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ดังนั้นจึงควรอัพเดท W-4 ให้เป็นปัจจุบันทุกหกเดือน เพื่อที่คุณจะได้ไม่ถูกหักมากเกินไป หรือถูกหักน้อยเกินไปจนต้องไปจ่ายเพิ่มตอนปลายปี นายจ้างเมื่อหักภาษีจากเงินค่าจ้างของคุณ จะต้องนำส่งให้ IRS และนายจ้างจะต้องออก W-2 ให้คุณเป็นหลักฐาน ทุกคนจะต้องได้รับ W-2 ภายในวันที่ 30 มกราคม
พอสิ้นปี คุณต้องยื่นภาษี หรือที่เรียกกันว่าทำ Tax Return การยื่นแบบภาษีเป็นการยืนยันจำนวนภาษีที่คุณต้องเสียจริงในรอบปีภาษีนั้นๆ ถ้าคุณหัก ณ ที่จ่ายเอาไว้น้อย คุณก็จะต้องจ่ายภาษีเพิ่ม แต่ถ้าคุณหัก ณ ที่จ่ายเอาไว้มากกว่าความเป็นจริง คุณก็จะได้รับเงินคืน
เงิน Tax Return ที่คืนมานี้เป็นเงินของคุณ มาจากจำนวนที่เขาหักจากรายได้ที่คุณได้รับในแต่ละงวด ไม่ใช่เงินของนายจ้าง ดังนั้นคุณไม่ต้องนำไปคืนให้นายจ้าง ถ้าหากนายจ้างของคุณสั่งว่าต้องเอามาคืน แนะนำว่าให้ร้องเรียนไปที่สำนักงานของกระทรวงแรงงาน ในเคาน์ตี้ที่คุณทำงานอยู่ค่ะ
หากคุณมีปัญหาเรื่องภาษี หรือนายจ้างกดขี่ไม่เป็นธรรม หรือนายจ้างหลบเลี่ยงภาษีและทิ้งให้เป็นภาระของคุณ ไม่ทราบว่าจะหาทางออกอย่างไร ติดต่อดิฉันได้ที่ us.tax515@gmail.com ค่ะ
อนุเคราะห์ข้อมูลโดย http://www.lawanwadee.com
Replacing Lost or Stolen Documents
ทำอย่างไรถ้าพบว่าเอกสารสำคัญหาย ก่อนอื่นคุณต้องแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอทำเอกสารฉบับใหม่
I-20, DS-2019
F-1 or J-1 ที่เป็นนักเรียน: ติดต่อทางโรงเรียนเพื่อขอ I-20 หรือ DS-2019
H-1B Approval Notice (I-797)
H-1B: นายจ้างจะต้องเป็นคนดำเนินการให้คุณ แต่คุณจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมในการออกเอกสารใหม่
บัตรอนุญาตทำงาน (EAD Card for F-1 Students on OPT)
ถ้า บัตรหายคุณต้องยื่นฟอร์ม I-765 ต่ออิมมิเกรชั่นเพื่อขอบัตรใหม่ เสียค่าธรรมเนียมเหมือนทำใหม่นะคะ แต่ถ้าเป็นหนแรกและคุณไม่เคยได้รับบัตรเลย ให้ติดต่ออิมมิเกรชั่นก่อน เพราะเป็นไปได้ว่าอาจหายระหว่างทาง หรือในเมล์ กรณีนี้ทางอิมมิเกรชั่นจะออกเอกสารให้คุณใหม่
Passport
ทันที ที่แน่ใจว่าพาสปอร์ตหาย คุณต้องแจ้งความ หลังจากนั้นให้รีบติดต่อสถานกงสุลไทยที่ใกล้ที่สุดเพื่อขอทำพาสปอร์ตใหม่ คุณต้องมี ID ของไทยสองอย่าง เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน หรือใบขับขี่
Visa
ถ้า พาสปอร์ตหาย วีซ่าที่อยู่ในนั้นก็จะมีปัญหาด้วย คุณต้องรีบติดต่อสถานกงสุลอเมริกันในประเทศไทย พร้อมกับบันทึกแจ้งความเพื่อแจ้งหาย ทางกงสุลจะได้ยกเลิกหมายเลขวีซ่าของคุณเพื่อป้องกันคนที่ขโมยเอาไปใช้ในทาง มิชอบ คุณยังอยู่ในอเมริกาได้ถูกกฏหมายตราบใดที่คุณมี I-20, DS-2019 ที่เป็นปัจจุบัน เมื่อคุณทำพาสปอร์ตใหม่แล้ว หากคุณกลับเมืองไทย คุณจะต้องไปยื่นเรื่องขอวีซ่าใหม่ เงื่อนไขนี้เหมือนกันไม่ว่าคุณจะถือวีซ่านักเรียน หรือวีซ่าทำงาน
Social Security Card
การ ขอบัตรโซเชี่ยลใหม่อาจจะยากสักหน่อย เพราะคุณต้องมีหลักฐานยืนยันว่าคุณได้รับอนุมัติให้ทำงานได้อย่างถูกต้องตาม กฏหมาย ถ้าคุณถือวีซ่าทำงานก็ไม่ยุ่งยากเท่าไหร่หากวีซ่ายังไม่หมด แต่ถ้าคุณถือวีซ่านักเรียนหรือวีซ่าประเภทอื่นที่เคยมีบัตรโซเชียลมาก่อน แต่คุณไม่ได้ทำงาน on campus อีกแล้ว กรณีนี้คุณจะไม่สามารถขอบัตรใหม่ได้
I-94 Card
ถ้า I-94 หาย คุณต้องยื่น Form I-102 เพื่อขอ I-94 ฉบับใหม่ ขั้นตอนนี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน ดังนั้นควรรีบทำทันทีเพราะจะได้ไม่มีปัญหาหากคุณเกิดอยากเดินทางออกนอก ประเทศ (ถ้าคุณมีสำเนา I-94 เก็บไว้ คุณไม่ต้องทำใหม่ก็ได้ ยื่นสำเนาให้เจ้าหน้าที่สายการบินตอนขาออกก็ใช้ได้ ยกเว้นถ้าคุณจะทำเรื่องขอเปลี่ยนสถานะ คุณต้องใช้ I-94 ตัวจริงค่ะ)
ข้อแนะนำ:
คุณ ควรทำสำเนาเอกสารทุกอย่างที่ว่ามาข้างต้นนี้ เก็บไว้ในที่ปลอดภัยเผื่อกรณ๊ฉุกเฉิน นอกจากนี้ ควรสแกนเป็น PDF ไฟล์ ส่งเป็นอีเมล์ถึงตัวคุณเอง วิธีนี้สะดวกตรงที่หากคุณกำลังเดินทาง ไม่สามารถกลับไปเอาสำเนาได้ คุณสามารถปริ้นท์ออกมาได้ทันที และถ้าหากคุณมีสำเนาเอกสารเดิม เวลาทำเรื่องเอกสารใหม่จะทำให้ง่ายเข้าค่ะ
อนุเคราะห์ข้อมูลโดย http://www.lawanwadee.com
Saturday, August 20, 2011
W-8BEN
พูดถึงเรื่องภาษีอเมริกัน คนที่เคยไปเรียน ไปทำงานในอเมริกาคงทราบดีว่าการเก็บภาษีของอเมริกานั้น โครงสร้างและกฏเกณฑ์ค่อนข้างซับซ้อนและที่สำคัญ มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดปลีกย่อยทุกปี
ถ้าคุณรับจ๊อบกับบริษัทอเมริกันที่ไม่มีสำนักงานในประเทศไทย และตัวคุณทำงานในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นงานออกแบบ เขียนโปรแกรม หรืองานกราฟฟิค ภาพเขียน ภาพถ่าย ฯลฯ คุณควรทำความเข้าใจกับระบบภาษีเงินได้ในส่วนที่คุณต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้
ปกติถ้าเป็นการจ่ายค่าจ้างให้พนักงานที่เป็น resident เช่น เป็นอเมริกันซิติเซ่น หรือถือใบเขียว หรือถือวีซ่าทำงานที่มีทีหน้าที่ต้องเสียภาษีเหมือน resident เช่น วีซ่า E, H, L นายจ้างจะต้องหัก ณ ที่จ่ายสำหรับภาษีสี่รายการคือ Federal Income Tax, Social Security, Medicare และ State Tax
แต่ถ้าพนักงานเป็นคนต่างชาติ กรณีนี้นายจ้างไม่จำเป็นต้องหัก ณ ที่จ่าย แต่ต้องรายงาน IRS โดยการยื่นฟอร์ม W-8BEN พร้อมทั้ง ITIN (Individual Taxpayer Identification Number) ของพนักงานที่เป็นคนต่างชาติ
W-8BEN คือ Certificate of Foreign Status of Beneficial Owner for United States Tax Withholding หรือภาษาชาวบ้านคือหนังสือรับรองสถานะว่าผู้รับเงินเป็นคนต่างด้าว ซึ่งทำให้ไม่ต้องหัก ณ ที่จ่าย Federal Income Tax, Social Security, Medicare และ State Tax ดังนั้นคุณจะได้รับค่าจ้างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่โดนหักภาษี ณ ที่จ่ายประมาณ 20% เหมือนพลเมืองอเมริกัน
การทำ W-8BEN หนึ่งครั้งมีผลบังคับใช้สามปี ยกเว้นถ้าคุณเกิดไปเรียนต่ออเมริกา หรือได้ใบเขียว หรือได้วีซ่าทำงาน หรือมีเหตุให้ต้องอยู่ในอเมริกาเกินกว่า 183 วันในปีนั้นๆ ระยะเวลาช่วงที่คุณอยู่ในอเมริกาคุณจะต้องเสียภาษีตาอัตรา resident แต่เมื่อกลับเมืองไทยแล้วก็สามารถทำ W-8BEN ใหม่ได้
การรายงานสถานะเป็น W-8BEN นั้น คุณจะต้องยื่นฟอร์ม W-7 ต่อ IRS เพื่อขอหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (Individual Taxpayer Identification Number หรือ ITIN)
ถ้า คุณมีเงินได้ในส่วนนี้เกิน $600 ต่อปี พอสิ้นปีคุณจะต้องยื่นแบบภาษีต่อ IRS แต่เนื่องจากสถานะเป็นคนต่างด้าวที่ไม่ได้อยู่ในอเมริกา หรืออยู่ในอเมริกาน้อยกว่า 183 วันต่อปี คุณจะได้ tax credit คือไม่ต้องเสียภาษีในส่วนนี้ แต่ต้องยื่นแบบภาษีตอนสิ้นปี
ถึงตรงนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่า ถ้าไม่ยื่นจะเป็นอะไรมั้ย ถ้าจำนวนเงินน้อยคือปีละไม่กี่พันเหรียญ ตรงนี้ไม่มีปัญหาค่ะ แต่ถ้าเป็นเงินจำนวนเกินหนึ่งหมื่นเหรียญต่อปีหรือมากกว่านั้น คุณจะได้รับจดหมายทวงถามจาก IRS ค่ะ
ถ้าคุณได้รับจดหมายทวงถามจาก IRS อย่าเพิกเฉย หรือคิดว่าคุณอยู่เมืองไทย รัฐบาลอเมริกันคงจะทำอะไรคุณไม่ได้ อังเคิลแซมไม่สามารถก้าวข้าม jurisdiction มาถึงเมืองไทยได้ก็จริง แต่ที่เขาจะทำคือ ถ้าหากคุณยังมีรายได้จากการขายภาพของคุณ IRS จะยึดเงินจำนวนนี้ไปหักหนี้แทน (เงินภาษี+ดอกเบี้ย+ค่าปรับชำระล่าช้า)
มีข้อสงสัยเรื่องภาษีอเมริกัน หรือต้องการปรึกษา Licensed Tax Professional ติดต่อได้ที่นี่ค่ะ us.tax515@gmail.com ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ค่ะ
Form: http://www.irs.gov/pub/irs-pdf/fw8ben.pdf
Instructions: http://www.irs.gov/pub/irs-pdf/iw8ben.pdf
อนุเคราะห์ข้อมูลโดยคุณลาวัณย์วดี (http://www.lawanwadee.com/FeatureArticles/W-8BEN.html)
ถ้าคุณรับจ๊อบกับบริษัทอเมริกันที่ไม่มีสำนักงานในประเทศไทย และตัวคุณทำงานในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นงานออกแบบ เขียนโปรแกรม หรืองานกราฟฟิค ภาพเขียน ภาพถ่าย ฯลฯ คุณควรทำความเข้าใจกับระบบภาษีเงินได้ในส่วนที่คุณต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้
ปกติถ้าเป็นการจ่ายค่าจ้างให้พนักงานที่เป็น resident เช่น เป็นอเมริกันซิติเซ่น หรือถือใบเขียว หรือถือวีซ่าทำงานที่มีทีหน้าที่ต้องเสียภาษีเหมือน resident เช่น วีซ่า E, H, L นายจ้างจะต้องหัก ณ ที่จ่ายสำหรับภาษีสี่รายการคือ Federal Income Tax, Social Security, Medicare และ State Tax
แต่ถ้าพนักงานเป็นคนต่างชาติ กรณีนี้นายจ้างไม่จำเป็นต้องหัก ณ ที่จ่าย แต่ต้องรายงาน IRS โดยการยื่นฟอร์ม W-8BEN พร้อมทั้ง ITIN (Individual Taxpayer Identification Number) ของพนักงานที่เป็นคนต่างชาติ
W-8BEN คือ Certificate of Foreign Status of Beneficial Owner for United States Tax Withholding หรือภาษาชาวบ้านคือหนังสือรับรองสถานะว่าผู้รับเงินเป็นคนต่างด้าว ซึ่งทำให้ไม่ต้องหัก ณ ที่จ่าย Federal Income Tax, Social Security, Medicare และ State Tax ดังนั้นคุณจะได้รับค่าจ้างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่โดนหักภาษี ณ ที่จ่ายประมาณ 20% เหมือนพลเมืองอเมริกัน
การทำ W-8BEN หนึ่งครั้งมีผลบังคับใช้สามปี ยกเว้นถ้าคุณเกิดไปเรียนต่ออเมริกา หรือได้ใบเขียว หรือได้วีซ่าทำงาน หรือมีเหตุให้ต้องอยู่ในอเมริกาเกินกว่า 183 วันในปีนั้นๆ ระยะเวลาช่วงที่คุณอยู่ในอเมริกาคุณจะต้องเสียภาษีตาอัตรา resident แต่เมื่อกลับเมืองไทยแล้วก็สามารถทำ W-8BEN ใหม่ได้
การรายงานสถานะเป็น W-8BEN นั้น คุณจะต้องยื่นฟอร์ม W-7 ต่อ IRS เพื่อขอหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (Individual Taxpayer Identification Number หรือ ITIN)
ถ้า คุณมีเงินได้ในส่วนนี้เกิน $600 ต่อปี พอสิ้นปีคุณจะต้องยื่นแบบภาษีต่อ IRS แต่เนื่องจากสถานะเป็นคนต่างด้าวที่ไม่ได้อยู่ในอเมริกา หรืออยู่ในอเมริกาน้อยกว่า 183 วันต่อปี คุณจะได้ tax credit คือไม่ต้องเสียภาษีในส่วนนี้ แต่ต้องยื่นแบบภาษีตอนสิ้นปี
ถึงตรงนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่า ถ้าไม่ยื่นจะเป็นอะไรมั้ย ถ้าจำนวนเงินน้อยคือปีละไม่กี่พันเหรียญ ตรงนี้ไม่มีปัญหาค่ะ แต่ถ้าเป็นเงินจำนวนเกินหนึ่งหมื่นเหรียญต่อปีหรือมากกว่านั้น คุณจะได้รับจดหมายทวงถามจาก IRS ค่ะ
ถ้าคุณได้รับจดหมายทวงถามจาก IRS อย่าเพิกเฉย หรือคิดว่าคุณอยู่เมืองไทย รัฐบาลอเมริกันคงจะทำอะไรคุณไม่ได้ อังเคิลแซมไม่สามารถก้าวข้าม jurisdiction มาถึงเมืองไทยได้ก็จริง แต่ที่เขาจะทำคือ ถ้าหากคุณยังมีรายได้จากการขายภาพของคุณ IRS จะยึดเงินจำนวนนี้ไปหักหนี้แทน (เงินภาษี+ดอกเบี้ย+ค่าปรับชำระล่าช้า)
มีข้อสงสัยเรื่องภาษีอเมริกัน หรือต้องการปรึกษา Licensed Tax Professional ติดต่อได้ที่นี่ค่ะ us.tax515@gmail.com ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ค่ะ
Form: http://www.irs.gov/pub/irs-pdf/fw8ben.pdf
Instructions: http://www.irs.gov/pub/irs-pdf/iw8ben.pdf
อนุเคราะห์ข้อมูลโดยคุณลาวัณย์วดี (http://www.lawanwadee.com/FeatureArticles/W-8BEN.html)
Thursday, August 11, 2011
Ten Tax Tips for Individuals Selling Their Home
The Internal Revenue Service has some important information to share with individuals who have sold or are about to sell their home. If you have a gain from the sale of your main home, you may qualify to exclude all or part of that gain from your income. Here are ten tips from the IRS to keep in mind when selling your home.
- In general, you are eligible to exclude the gain from income if you have owned and used your home as your main home for two years out of the five years prior to the date of its sale.
- If you have a gain from the sale of your main home, you may be able to exclude up to $250,000 of the gain from your income ($500,000 on a joint return in most cases).
- You are not eligible for the exclusion if you excluded the gain from the sale of another home during the two-year period prior to the sale of your home.
- If you can exclude all of the gain, you do not need to report the sale on your tax return.
- If you have a gain that cannot be excluded, it is taxable. You must report it on Form 1040, Schedule D, Capital Gains and Losses.
- You cannot deduct a loss from the sale of your main home.
- Worksheets are included in Publication 523, Selling Your Home, to help you figure the adjusted basis of the home you sold, the gain (or loss) on the sale, and the gain that you can exclude.
- If you have more than one home, you can exclude a gain only from the sale of your main home. You must pay tax on the gain from selling any other home. If you have two homes and live in both of them, your main home is ordinarily the one you live in most of the time.
- If you received the first-time home buyer credit and within 36 months of the date of purchase, the property is no longer used as your principal residence, you are required to repay the credit. Repayment of the full credit is due with the income tax return for the year the home ceased to be your principal residence, using Form 5405, First-Time Homebuyer Credit and Repayment of the Credit. The full amount of the credit is reflected as additional tax on that year’s tax return.
- When you move, be sure to update your address with the IRS and the U.S. Postal Service to ensure you receive refunds or correspondence from the IRS. Use Form 8822, Change of Address, to notify the IRS of your address change.
For more information about selling your home, see IRS Publication 523, Selling Your Home. This publication is available at www.irs.gov or by calling 800-TAX-FORM (800-829-3676).
Thursday, June 30, 2011
More Questions
มีคำถามจากน้องๆ หลายคนเรื่องภาษีของอเมริกา ที่ยังไม่ค่อยเข้าใจ ภาคต่อค่ะ....
Q: New Jersey เราสามารถขอ refund STATE TAX ได้ใช่มั้ยคะ ?? บางคนบอกไม่ได้ กำลังจะทำ Refund น่ะค่ะ ใช้บริการเอเจ้นท์คนละที่กับเพื่อน เพื่อนยืนกรานหนักแน่นเลยว่า เอเจ้นท์เค้าบอกว่า NJ ทำ Refund ในส่วน state tax ไม่ได้ ทำได้แต่ federal tax
ซึ่ง ค่าบริการของเรากับเค้าต่างกันแค่ 200 บาท แต่เอเจ้นท์เราเค้าบอกว่าได้ทั้งสองส่วน เลยอยากจะรบกวนถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจน่ะค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่า
A: รัฐที่ไม่มี state personal income tax คือ Alaska, Florida, New Hampshire, Nevada, South Dakota, Tennessee, Texas, Washington, Wyoming นอกนั้นมี state tax และถ้าคุณมีรายได้ คุณต้องเสียภาษีทั้ง federal และ state ค่ะ
Q: ถือ visa F1 แต่ยื่น ฟอร์ม 1040EZ ไปแล้ว ควรแก้ไขอย่างไรคะ ตอน นี้กลับมาเมืองไทยนานแล้วค่ะ มาทราบที่หลังว่าต้องใช้ฟอร์ม 1040NR-EZ ควรแก้ไขอย่างไรคะ ในอนาคตอาจจะไปอยู่ที่อเมริกา เกรงว่าจะมีผลต่อการของ green card และ citizen ค่ะ
A: ปกติถ้าเป็น non-resident จะใช้ฟอร์ม 1040X ไม่ได้ ต้องแก้ไขทำเป็น 1040NR หรือ 1040NR EZ แล้วทำหนังสือชี้แจงไป ฟอร์ม 1040X ใช้ในกรณีที่มีข้อผิดพลาดจากการยื่นในฐานะ resident คือยื่นฟอร์ม 1040, 1040A, หรือ 1040EZ
สำหรับกรณี จขกท เนื่องจากเกินสามปีไปแล้ว case closed ไม่ต้องทำอะไรค่ะ
Q: อยากเสียภาษีจากงาน P/Tใช้ ฟอร์มอะไรยื่นคะ ได้ งาน part-time เป็น nanny ค่ะ host จ่ายเงินเป็นเช็คเต็มจำนวน โดยไม่หักภาษี แต่เราอยากจ่ายให้ซิตื้ สามารถทำได้ริเปล่าแล้วต้องยื่นแบบฟอร์มอะไรคะ
A: สำหรับ federal...... ถ้าคุณถือใบเขียว หรือวีซ่า H ที่ไม่ใช่ dual status ใช้ฟอร์ม 1040 หรือ 1040A หรือ 1040EZ ถ้าคุณถือวีซ่าชั่วคราวอย่างอื่น มีสถานะเป็น non-resident ใช้ฟอร์ม 1040NR หรือ 1040NREZ
สำหรับ state ต้องดูว่าคุณอยู่รัฐไหนค่ะ
Q: ถ้าเป็นเด็ก Work and Travel ใช้เวป turbotax ได้มั้ยครับ อยากทราบครับว่า non-residence ทำเคลมแท็กผ่านเน็ตได้รึปล่าว... ขอบคุณครับ
A: Non-resident ยังทำ e-file ไม่ได้ ต้องส่งเป็น paper ค่ะ อีกประการหนึ่ง ผู้ให้บริการตามเว็บส่วนมากจะไม่มีฟอร์ม 1040NR หรือ 1040NREZ ผู้ถือวีซ่า J ต้องยื่นเป็น non-resident แต่ถ้าถือ H1 ยื่น 1040, 1040A, หรือ 1040EZ ก็ได้
Q: มีใครทราบเรท income tax ของรัฐ Illinois บ้างคะ ต้องการทราบเรทภาษีรายได้น่ะค่ะ ไม่ทราบว่าเท่าไหร่ คำนวณยังไงบ้างคะ ขอบคุณค่ะ
A: เวลาคุณทำงาน..เสียภาษี คุณจะต้องเสียภาษีสองส่วนคือ
* Federal Taxes ซึ่งจะรวม Social Security และ Medicare เข้าไปด้วย
* State Tax
ในส่วนของ Federal นั้นเหมือนกันทุกรัฐ แต่ของ State จะต่างกันไป เช่น บางรัฐไม่มีการเก็บ income tax
สำหรับ Federal tax ของปีนี้ (2010) ถ้าคุณเป็นคนโสด และมี taxable income ไม่เกิน $8,375 คุณจะเสียภาษีที่ 10% ถ้าเกิน $8,375 แต่ไม่เกิน $34,000 ภาษีคือ 15% ถ้าเกิน $34,000 ภาษีคือ 25% ฯลฯ
หมายเหตุ: ตัวเลขโดยประมาณ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บของ IRS
Q: เป็นออแพร์ refund tax ได้มั้ยคะ ตอนนี้กำลังทำเรื่องเสียภาษีคะ เลยอยากจะทราบว่า ถ้าทำได้ต้องใช้เอกสารอะไรบ้างคะ แล้วต้องกลับมาทำที่ไทยหรือว่าทำที่อเมริกาได้เลยค่ะ แล้วพอจะมีเอเจนซี่ที่แนะนำเรื่องการทำคืนภาษีมั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ
A: สำหรับ คนที่ถือวีซ่า J, F ที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานได้อย่างถูกกฏหมาย เช่น Au Pair, W&T ต้องยื่นเป็น non resident คือ ฟอร์ม 1040 NR หรือ 1040NREZ
Q: New Jersey เราสามารถขอ refund STATE TAX ได้ใช่มั้ยคะ ?? บางคนบอกไม่ได้ กำลังจะทำ Refund น่ะค่ะ ใช้บริการเอเจ้นท์คนละที่กับเพื่อน เพื่อนยืนกรานหนักแน่นเลยว่า เอเจ้นท์เค้าบอกว่า NJ ทำ Refund ในส่วน state tax ไม่ได้ ทำได้แต่ federal tax
ซึ่ง ค่าบริการของเรากับเค้าต่างกันแค่ 200 บาท แต่เอเจ้นท์เราเค้าบอกว่าได้ทั้งสองส่วน เลยอยากจะรบกวนถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจน่ะค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่า
A: รัฐที่ไม่มี state personal income tax คือ Alaska, Florida, New Hampshire, Nevada, South Dakota, Tennessee, Texas, Washington, Wyoming นอกนั้นมี state tax และถ้าคุณมีรายได้ คุณต้องเสียภาษีทั้ง federal และ state ค่ะ
Q: ถือ visa F1 แต่ยื่น ฟอร์ม 1040EZ ไปแล้ว ควรแก้ไขอย่างไรคะ ตอน นี้กลับมาเมืองไทยนานแล้วค่ะ มาทราบที่หลังว่าต้องใช้ฟอร์ม 1040NR-EZ ควรแก้ไขอย่างไรคะ ในอนาคตอาจจะไปอยู่ที่อเมริกา เกรงว่าจะมีผลต่อการของ green card และ citizen ค่ะ
A: ปกติถ้าเป็น non-resident จะใช้ฟอร์ม 1040X ไม่ได้ ต้องแก้ไขทำเป็น 1040NR หรือ 1040NR EZ แล้วทำหนังสือชี้แจงไป ฟอร์ม 1040X ใช้ในกรณีที่มีข้อผิดพลาดจากการยื่นในฐานะ resident คือยื่นฟอร์ม 1040, 1040A, หรือ 1040EZ
สำหรับกรณี จขกท เนื่องจากเกินสามปีไปแล้ว case closed ไม่ต้องทำอะไรค่ะ
Q: อยากเสียภาษีจากงาน P/Tใช้ ฟอร์มอะไรยื่นคะ ได้ งาน part-time เป็น nanny ค่ะ host จ่ายเงินเป็นเช็คเต็มจำนวน โดยไม่หักภาษี แต่เราอยากจ่ายให้ซิตื้ สามารถทำได้ริเปล่าแล้วต้องยื่นแบบฟอร์มอะไรคะ
A: สำหรับ federal...... ถ้าคุณถือใบเขียว หรือวีซ่า H ที่ไม่ใช่ dual status ใช้ฟอร์ม 1040 หรือ 1040A หรือ 1040EZ ถ้าคุณถือวีซ่าชั่วคราวอย่างอื่น มีสถานะเป็น non-resident ใช้ฟอร์ม 1040NR หรือ 1040NREZ
สำหรับ state ต้องดูว่าคุณอยู่รัฐไหนค่ะ
Q: ถ้าเป็นเด็ก Work and Travel ใช้เวป turbotax ได้มั้ยครับ อยากทราบครับว่า non-residence ทำเคลมแท็กผ่านเน็ตได้รึปล่าว... ขอบคุณครับ
A: Non-resident ยังทำ e-file ไม่ได้ ต้องส่งเป็น paper ค่ะ อีกประการหนึ่ง ผู้ให้บริการตามเว็บส่วนมากจะไม่มีฟอร์ม 1040NR หรือ 1040NREZ ผู้ถือวีซ่า J ต้องยื่นเป็น non-resident แต่ถ้าถือ H1 ยื่น 1040, 1040A, หรือ 1040EZ ก็ได้
Q: มีใครทราบเรท income tax ของรัฐ Illinois บ้างคะ ต้องการทราบเรทภาษีรายได้น่ะค่ะ ไม่ทราบว่าเท่าไหร่ คำนวณยังไงบ้างคะ ขอบคุณค่ะ
A: เวลาคุณทำงาน..เสียภาษี คุณจะต้องเสียภาษีสองส่วนคือ
* Federal Taxes ซึ่งจะรวม Social Security และ Medicare เข้าไปด้วย
* State Tax
ในส่วนของ Federal นั้นเหมือนกันทุกรัฐ แต่ของ State จะต่างกันไป เช่น บางรัฐไม่มีการเก็บ income tax
สำหรับ Federal tax ของปีนี้ (2010) ถ้าคุณเป็นคนโสด และมี taxable income ไม่เกิน $8,375 คุณจะเสียภาษีที่ 10% ถ้าเกิน $8,375 แต่ไม่เกิน $34,000 ภาษีคือ 15% ถ้าเกิน $34,000 ภาษีคือ 25% ฯลฯ
หมายเหตุ: ตัวเลขโดยประมาณ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บของ IRS
Q: เป็นออแพร์ refund tax ได้มั้ยคะ ตอนนี้กำลังทำเรื่องเสียภาษีคะ เลยอยากจะทราบว่า ถ้าทำได้ต้องใช้เอกสารอะไรบ้างคะ แล้วต้องกลับมาทำที่ไทยหรือว่าทำที่อเมริกาได้เลยค่ะ แล้วพอจะมีเอเจนซี่ที่แนะนำเรื่องการทำคืนภาษีมั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ
A: สำหรับ คนที่ถือวีซ่า J, F ที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานได้อย่างถูกกฏหมาย เช่น Au Pair, W&T ต้องยื่นเป็น non resident คือ ฟอร์ม 1040 NR หรือ 1040NREZ
Tax Questions
ใกล้เวลาต้องเสียภาษี เลยมีคำถามเข้ามาหลายข้อเรื่องเกี่ยวกับภาษี ขอรวบยอดตอบพร้อมกันทีเดียวนะคะ
เอกสารไม่ครบ ยื่นได้ไหม
เอกสารไม่ครบ ยื่นได้ไหม
- ถ้า ไม่มี W-2 แต่มี Pay Stub ของเดือนสุดท้าย ถ้ายังไม่ถึง 15 กุมพาพันธ์ คุณควรติดต่อนายจ้างก่อน เพราะเส้นตายของการออก W-2 คือสิ้นเดือนมกราคม ถ้าติดต่อแล้วไม่ได้จริงๆ ก็ยื่นได้ค่ะ แต่เมีเงื่อนไขนิดหน่อยคือ คุณจะต้องรอไปจน 16 กุมพาพันธ์ถึงจะยื่นได้ และจะต้องยื่นเป็น paper file ไม่ใช่ efile
แยกกันอยู่กับสามี แต่ยังไม่ได้หย่า ควรจะยื่นยังไง
- ถ้า ยังไม่ได้หย่า คุณมีตัวเลือกคือ จะยื่นเป็น married filing jointly คือยื่นร่วมกัน หรือ married filing separately คือยื่นแยกกันก็ได้ การยื่นภาษีที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือยื่นร่วมกัน แต่ถ้าคุณกับสามีไม่สามารถเจรจากันดีๆ ได้ไม่ว่าเรื่องอะไร ก็ควรยื่นแยกกันค่ะ
การหย่าสิ้นสุดลงปีนี้ เราต้องยื่นภาษีอย่างไรคะ อดีตสามีบอกว่า เราทั้งสองต้องยื่นเรื่องเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าเราหย่าปี 2010
- ถ้าการหย่าสิ้นสุด คุณต้องยื่นแยกกัน filing status ของคุณเป็น single ไม่ว่าจะมีรายได้เท่าไหร่ก็ตาม ที่สามีบอกอย่างนั้นเพราะเขายังอยากได้คุณไว้หักลดหย่อน และขอ tax credit ต่างๆ ได้เต็มที่เหมือนคู่แต่งงานปกติ หรือพูดง่ายๆ คือเขาอยากได้ refund เยอะไม่สนใจว่าจะเป็นการโกง IRS หรือไม่
ปัจจุบันแต่งงานกับ us citizen ตอนนี้กำลังรอใบเขียวสิบปีอยู่ ยื่นภาษีร่วมกันมาสองปีแล้ว แต่ปีนี้ (ปี 2010) คิดว่าคงยื่นแยกกัน จะมีผลทำให้การยื่นขอ citizen ไม่ผ่านหรือป่าวครับ
- ในแง่ของภาษี การยื่นภาษีร่วมกัน เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด กล่าวคือ ได้สิทธิ deduction และ tax credit สูงสุด หากยื่นแยกกันคุณจะเสียประโยชน์ตรงนี้ไป
- ใน แง่ของอิมมิเกรชั่น การยื่นภาษีร่วมกันแปลว่าคุณยังอยู่กินด้วยกันกับคู่สมรส ถ้าแยกกันยื่น คำถามตามมาแน่นอนว่าทำ ซึ่งจะมีผลกับการทำซิติเซ่นแน่นอน ยกเว้นถ้าคุณจะรอให้ถือใบเขียวครบ 5 ปีแล้วค่อยทำซิติเซ่น
ยื่นร่วมกับสามีแล้วปรากฏว่าโดน IRS ยึดเงิน refund เพราะสามีไปเป็นหนี้ใครมา เป็นอย่างนี้มา 3 ปีแล้ว ควรยื่นแยกกันดีไหม
- การ ที่ IRS ยึดเงิน refund แปลว่าเจ้าตัวเป็นหนี้รัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นหนี้ภาษี หรือ child support หรืออื่นๆ ฉนั้นถ้ารู้อย่างนี้แล้วก็ควรยื่นแยกกัน และสำหรับส่วนที่ถูกยึดไปไม่ได้คืน เช่นกรณีอย่างนี้ คุณสามารถทำเรื่องขอ refund ในส่วนของคุณเองได้ถ้าคุณทำงานและมีรายได้ในระหว่างปี สามารถทำเรื่องย้อนหลังได้ถ้าไม่เกิน 3 ปีค่ะ
Keep Your W-4 Up-To-Date
W-4 คือตัวแปรสำคัญที่จะทำให้คุณได้รับเงินภาษีคืนมากหรือน้อย แต่หลายๆ คนไม่รู้ว่าเงื่อนไขคืออะไร และสามารถเอื้อประโยชน์ให้เราๆ ได้มากน้อยแค่ไหน
ฟอร์ม W-4 สำหรับปี 2010 ดูที่นี่นะคะ http://www.irs.gov/pub/irs-pdf/fw4.pdf
คนส่วนมากที่ไม่เข้าใจระบบการคำนวณภาษีอย่างแท้จริง ก็มักจะทำยังไงก็ได้ที่จะให้เสียภาษีน้อยที่สุด คือหัก ณ ที่จ่ายน้อยและยังได้เงินคืนอีกยิ่งดี แต่ข้อเท็จจริงคือ การหัก ณ ที่จ่ายน้อยกว่าความเป็นจริงนั้น คุณเองเสียประโยชน์จาก tax credit หลายๆ รายการที่ควรจะได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย
tax credit บางรายการเช่น หักลดหย่อนสำหรับคนที่มีลูกที่ยังเป็นผู้เยาว์ หรือยังเรียนหนังสืออยู่ หรือค่าเดย์แคร์/พี่เลี้ยงเด็ก ในกรณีที่ทั้งพ่อและแม่ทำงานนอกบ้านทั้งคู่ ฯลฯ ในกรณีอย่างนี้ IRS ให้สิทธิในการหักลดภาษีโดยให้เป็น tax credit ซึ่งคุณสามารถนำจำนวน tax credit ไปหักลบจากยอดรวมของภาษีที่คุณต้องเสียในแต่ละปี ดังนั้นคุณจะได้เงินส่วนนี้คืนมาเป็นจำนวนหลายร้อยเหรียญ หรือนับพันเหรียญถ้าคุณมีลูกมากกว่าหนึ่ง หรือต้องอุปการะหลานหรือบุตรบุญธรรมเป็นต้น
แต่เนื่องจาก tax credit เหล่านี้ เป็น non-refundable คือถ้าคุณทำหัก ณ ที่จ่ายไว้มากกว่าจำนวน tax credit คุณจะได้รับ tax credit เต็มจำนวน แต่ถ้าหากคุณหัก ณ ที่จ่ายไว้น้อยกว่าจำนวน tax credit คุณจะได้แต่จำนวนส่วนต่างที่คุณหักไว้เท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น
สมมติ ถ้าคุณคำนวณออกมาแล้วว่าจำนวนภาษีที่ต้องเสียจริงๆ คือ $780 และคุณได้ tax credit โดยคำนวณจากรายได้สองคนรวมกันแล้วเท่ากับ $2,000 คุณจะได้สิทธินี้แค่ $780 แทนที่จะเป็น $2,000 ฉนั้นเงิน refund ของคุณจะน้อยกว่ากรณีที่คุณทำหัก ณ ที่จ่ายเอาไว้ตามความเป็นจริง
ดังนั้นทางที่ดีคือ update W-4 ของคุณให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ เช่น คุณแต่งงาน หย่า แยกกันอยู่ มีลูกที่อยู่ในความดูแลของคุณมากกว่าหกเดือนต่อปี นอกจากนั้นหลักฐานต่างๆ เช่น ตกงาน และรับเงิน unemployment หรือป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล ซื้อรถใหม่ หรือซื้อบ้านใหม่ หรือรีไฟแนนซ์ ฯลฯ และอย่าทิ้งหรือทำลายหลักฐานใดๆ เรื่องเงินๆ ทองๆ เก็บเอาไว้ให้ดีค่ะ
ฟอร์ม W-4 สำหรับปี 2010 ดูที่นี่นะคะ http://www.irs.gov/pub/irs-pdf/fw4.pdf
คนส่วนมากที่ไม่เข้าใจระบบการคำนวณภาษีอย่างแท้จริง ก็มักจะทำยังไงก็ได้ที่จะให้เสียภาษีน้อยที่สุด คือหัก ณ ที่จ่ายน้อยและยังได้เงินคืนอีกยิ่งดี แต่ข้อเท็จจริงคือ การหัก ณ ที่จ่ายน้อยกว่าความเป็นจริงนั้น คุณเองเสียประโยชน์จาก tax credit หลายๆ รายการที่ควรจะได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย
tax credit บางรายการเช่น หักลดหย่อนสำหรับคนที่มีลูกที่ยังเป็นผู้เยาว์ หรือยังเรียนหนังสืออยู่ หรือค่าเดย์แคร์/พี่เลี้ยงเด็ก ในกรณีที่ทั้งพ่อและแม่ทำงานนอกบ้านทั้งคู่ ฯลฯ ในกรณีอย่างนี้ IRS ให้สิทธิในการหักลดภาษีโดยให้เป็น tax credit ซึ่งคุณสามารถนำจำนวน tax credit ไปหักลบจากยอดรวมของภาษีที่คุณต้องเสียในแต่ละปี ดังนั้นคุณจะได้เงินส่วนนี้คืนมาเป็นจำนวนหลายร้อยเหรียญ หรือนับพันเหรียญถ้าคุณมีลูกมากกว่าหนึ่ง หรือต้องอุปการะหลานหรือบุตรบุญธรรมเป็นต้น
แต่เนื่องจาก tax credit เหล่านี้ เป็น non-refundable คือถ้าคุณทำหัก ณ ที่จ่ายไว้มากกว่าจำนวน tax credit คุณจะได้รับ tax credit เต็มจำนวน แต่ถ้าหากคุณหัก ณ ที่จ่ายไว้น้อยกว่าจำนวน tax credit คุณจะได้แต่จำนวนส่วนต่างที่คุณหักไว้เท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น
สมมติ ถ้าคุณคำนวณออกมาแล้วว่าจำนวนภาษีที่ต้องเสียจริงๆ คือ $780 และคุณได้ tax credit โดยคำนวณจากรายได้สองคนรวมกันแล้วเท่ากับ $2,000 คุณจะได้สิทธินี้แค่ $780 แทนที่จะเป็น $2,000 ฉนั้นเงิน refund ของคุณจะน้อยกว่ากรณีที่คุณทำหัก ณ ที่จ่ายเอาไว้ตามความเป็นจริง
ดังนั้นทางที่ดีคือ update W-4 ของคุณให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ เช่น คุณแต่งงาน หย่า แยกกันอยู่ มีลูกที่อยู่ในความดูแลของคุณมากกว่าหกเดือนต่อปี นอกจากนั้นหลักฐานต่างๆ เช่น ตกงาน และรับเงิน unemployment หรือป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล ซื้อรถใหม่ หรือซื้อบ้านใหม่ หรือรีไฟแนนซ์ ฯลฯ และอย่าทิ้งหรือทำลายหลักฐานใดๆ เรื่องเงินๆ ทองๆ เก็บเอาไว้ให้ดีค่ะ
Wednesday, January 19, 2011
บริการของเรา
รับทำภาษีของสหรัฐอเมริกา โดย licensed tax professional พูดภาษาไทย
บริการ:
CTEC Certified
IRS Registered
Bonded & Insured
Jamie: us.tax515@gmail.com
626.463.3855
บริการ:
- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา resident & non-resident และธุรกิจขนาดเล็ก
- ยื่นแบบภาษีแก้ไขของปีก่อนๆ ที่มีข้อผิดพลาด
- ยื่นเรื่องขอสำเนาของปีก่อนๆ ในกรณีที่คู่สำเนาหายหรือหาไม่เจอ
- รับปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับภาษีทั่วไป
- รับปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับภาษีสำหรับผู้ที่กำลังจะสอบซิติเซ่น หรือผู้ที่กำลังจะยื่นขอใบเขียว หรือผู้ที่ไม่เคยมีหลักฐานการยื่นภาษีมาก่อน
- รับปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับภาษีในแง่ของการลงทุน ทำกิจการ ซื้อบ้าน ฯลฯ
CTEC Certified
IRS Registered
Bonded & Insured
Jamie: us.tax515@gmail.com
626.463.3855
Tuesday, January 18, 2011
What's Behind H&R Block's Free Tax Service
What's Behind H&R Block's Free Tax Service
Bloomberg Businessweek
Ben Steverman, On Monday January 17, 2011, 8:08 am EST
The 2011 tax season is under way and the airwaves are full of a deal that sounds too good to be true: For another month, Americans can visit their local H&R Block (NYSE:HRB - News) office and file their taxes for no charge.
How and why would the nation's largest tax filer give its service away for free? In a nutshell: 1) H&R Block is being forced to scramble harder this tax season to compete with other filing services. 2) It's unable to offer a service that brought in customers in years past. 3) The "free taxes" offer isn't for everyone.
Here are the details:
What's the Catch?
The promotion only covers those filing the 1040EZ federal form, which is about 16 percent of H&R Block customers. The 1040EZ form covers only the very simplest tax issues. It can't be used by anyone who has dependents, makes more than $100,000 per year, is age 65 or older, claims adjustment to income like alimony or tuition deductions, or itemizes deductions. Thus, homeowners who deduct mortgage interest or people with large charitable contributions can't use the 1040EZ.
Even those customers who can use a 1040EZ will have to pay H&R Block extra to file any state income tax returns. Just seven states -- Alaska, Florida, Nevada, South Dakota, Texas, Washington, and Wyoming -- have no income tax.
The offer began on Jan. 14, when H&R Block's local offices started filing 2010 returns, and ends on Feb. 15. From Feb. 15 to Apr. 18 (the tax filing deadline is different this year because of a holiday on Apr. 15 in the District of Columbia), customers will be charged to file a 1040EZ at an H&R Block office. That's an important consideration for taxpayers who may still be waiting for key end-of-the-year paperwork.
What Does H&R Block Get Out of the Promotion?
The free returns aren't a charity project, even if many of H&R Block's early filers tend to be poorer people who want their tax refunds as soon as possible. "It's not about giving away business for free," says Amy McAnarney, H&R Block's senior vice-president for tax operations. One goal is to increase foot traffic at H&R Block offices. " 'Free' can be a very powerful word," she says. Until they arrive for their appointment, many of these new customers might not realize they actually need more complex tax forms -- and thus will wind up paying for them.
Another goal is to attract younger taxpayers -- those who can still use the 1040EZ -- and win their loyalty in future years. The company estimates 55 percent of EZ filers will need to file a more complex form within two years.
Why This Year?
H&R Block's retail operation has been losing customers, with retail returns falling 6.1 percent last year. Morningstar (NasdaqGS:MORN - News) senior equity analyst Vishnu Lekraj says in-office tax preparation services continue to lose market share to tax software and websites, which can be much cheaper. "The taxpayer is becoming more and more comfortable doing their own taxes," he says.
Many software or online tax tools have already offered 1040EZ filings for free, including those from H&R Block and Intuit's (NasdaqGS:INTU - News) TurboTax. Last year, McAnarney says, H&R Block tried offering free 1040EZ returns in offices in three cities -- Miami, New Orleans, and Atlanta -- "and it was received very well."
Offering free returns is also part of the company's effort to bounce back from some rough years, analysts say. A rise in unemployment has hurt business for all tax preparers, with industrywide IRS filings dropping 1.7 percent last year, the largest decline since 1971.
What Happened to H&R Block's Advertising Promotion of Previous Years, the "Instant Money" Refund?
Those "refund anticipation loans" have come under fire by the federal government and consumer groups for high fees and finance charges. Compass Point equity analyst Mike Turner estimates RALs cost H&R Block's 2010 customers about $67 each, which works out to an annualized interest rate of 54 percent on an average $3,000 refund. The pitch by H&R Block and other services has been that RALs let customers -- generally those who lack bank accounts -- get their refunds immediately, rather than waiting eight weeks or more to get a check from the IRS.
After regulators started cracking down, H&R Block's lender, HSBC (NYSE:HBC - News), announced it wouldn't fund the company's Instant Money program this year. As a result, H&R Block can't offer RALs, while competitors like Jackson Hewitt (NYSE:JTX - News) still can do so, at least this year. Regulators seem serious about ending RALs entirely, Morningstar's Lekraj says, adding: "They just feel consumers at the end of the day are getting taken advantage of." Compass Point's Turner estimates H&R Block could lose 10 percent to 15 percent of its RAL users. H&R Block will offer alternatives, including a prepaid debit card and a refund anticipation check that can take eight days to clear. But the free tax service is designed to pick up some of the promotional slack.
Won't This Eat into H&R Block's Revenue?
H&R Block is confident that many of those new customers who enter offices looking for a free return will end up paying anyway -- for more complex federal returns, for state returns, or for other services. Last year the average tax return at an H&R Block retail office cost $189, and executives don't expect that to decline in 2011. "Our ability to monetize this program means a minimal impact on our net average charge," H&R Block Retail Tax President Phil Mazzini told analysts on Dec. 7.
The high U.S. jobless rate, the cancellation of the Instant Money program, and the free filing promotion all make it difficult to predict how well the company will do this tax season, analysts say. "Everything is really up in the air in my opinion," Morningstar's Lekraj says.
Compass Point's Turner expects H&R Block will stop losing business to the bad economy, but says it will continue losing customers to do-it-yourself, computerized tax filing options. "I would expect their total filers to be down slightly year over year," he says.
Management is offering no guidance to investors. Analysts surveyed by Bloomberg estimate revenues will fall 1.4 percent, to $3.7 billion, in the 2011 fiscal year ending in April, following a 4.5 percent decline last year. Net income is estimated to fall 2.1 percent, to $469 million, after a 1.3 percent drop in 2010.
สรุป ที่ H&R Block โฆษณาว่าฟรีนั้น จริงๆ แล้วไม่ฟรี คือ ถ้ามี tax credit จะคิดเงินเป็นรายการไป คนมีครอบครัวส่วนมากจะได้ tax credit อย่างน้อย 2-3 รายการ หรือมากกว่านั้นถ้าซื้อบ้าน ซื้อรถ ฉนั้นลูกค้าลงเอยด้วยการจ่ายแพงกว่าที่ควรจะเป็น
Bloomberg Businessweek
Ben Steverman, On Monday January 17, 2011, 8:08 am EST
The 2011 tax season is under way and the airwaves are full of a deal that sounds too good to be true: For another month, Americans can visit their local H&R Block (NYSE:HRB - News) office and file their taxes for no charge.
How and why would the nation's largest tax filer give its service away for free? In a nutshell: 1) H&R Block is being forced to scramble harder this tax season to compete with other filing services. 2) It's unable to offer a service that brought in customers in years past. 3) The "free taxes" offer isn't for everyone.
Here are the details:
What's the Catch?
The promotion only covers those filing the 1040EZ federal form, which is about 16 percent of H&R Block customers. The 1040EZ form covers only the very simplest tax issues. It can't be used by anyone who has dependents, makes more than $100,000 per year, is age 65 or older, claims adjustment to income like alimony or tuition deductions, or itemizes deductions. Thus, homeowners who deduct mortgage interest or people with large charitable contributions can't use the 1040EZ.
Even those customers who can use a 1040EZ will have to pay H&R Block extra to file any state income tax returns. Just seven states -- Alaska, Florida, Nevada, South Dakota, Texas, Washington, and Wyoming -- have no income tax.
The offer began on Jan. 14, when H&R Block's local offices started filing 2010 returns, and ends on Feb. 15. From Feb. 15 to Apr. 18 (the tax filing deadline is different this year because of a holiday on Apr. 15 in the District of Columbia), customers will be charged to file a 1040EZ at an H&R Block office. That's an important consideration for taxpayers who may still be waiting for key end-of-the-year paperwork.
What Does H&R Block Get Out of the Promotion?
The free returns aren't a charity project, even if many of H&R Block's early filers tend to be poorer people who want their tax refunds as soon as possible. "It's not about giving away business for free," says Amy McAnarney, H&R Block's senior vice-president for tax operations. One goal is to increase foot traffic at H&R Block offices. " 'Free' can be a very powerful word," she says. Until they arrive for their appointment, many of these new customers might not realize they actually need more complex tax forms -- and thus will wind up paying for them.
Another goal is to attract younger taxpayers -- those who can still use the 1040EZ -- and win their loyalty in future years. The company estimates 55 percent of EZ filers will need to file a more complex form within two years.
Why This Year?
H&R Block's retail operation has been losing customers, with retail returns falling 6.1 percent last year. Morningstar (NasdaqGS:MORN - News) senior equity analyst Vishnu Lekraj says in-office tax preparation services continue to lose market share to tax software and websites, which can be much cheaper. "The taxpayer is becoming more and more comfortable doing their own taxes," he says.
Many software or online tax tools have already offered 1040EZ filings for free, including those from H&R Block and Intuit's (NasdaqGS:INTU - News) TurboTax. Last year, McAnarney says, H&R Block tried offering free 1040EZ returns in offices in three cities -- Miami, New Orleans, and Atlanta -- "and it was received very well."
Offering free returns is also part of the company's effort to bounce back from some rough years, analysts say. A rise in unemployment has hurt business for all tax preparers, with industrywide IRS filings dropping 1.7 percent last year, the largest decline since 1971.
What Happened to H&R Block's Advertising Promotion of Previous Years, the "Instant Money" Refund?
Those "refund anticipation loans" have come under fire by the federal government and consumer groups for high fees and finance charges. Compass Point equity analyst Mike Turner estimates RALs cost H&R Block's 2010 customers about $67 each, which works out to an annualized interest rate of 54 percent on an average $3,000 refund. The pitch by H&R Block and other services has been that RALs let customers -- generally those who lack bank accounts -- get their refunds immediately, rather than waiting eight weeks or more to get a check from the IRS.
After regulators started cracking down, H&R Block's lender, HSBC (NYSE:HBC - News), announced it wouldn't fund the company's Instant Money program this year. As a result, H&R Block can't offer RALs, while competitors like Jackson Hewitt (NYSE:JTX - News) still can do so, at least this year. Regulators seem serious about ending RALs entirely, Morningstar's Lekraj says, adding: "They just feel consumers at the end of the day are getting taken advantage of." Compass Point's Turner estimates H&R Block could lose 10 percent to 15 percent of its RAL users. H&R Block will offer alternatives, including a prepaid debit card and a refund anticipation check that can take eight days to clear. But the free tax service is designed to pick up some of the promotional slack.
Won't This Eat into H&R Block's Revenue?
H&R Block is confident that many of those new customers who enter offices looking for a free return will end up paying anyway -- for more complex federal returns, for state returns, or for other services. Last year the average tax return at an H&R Block retail office cost $189, and executives don't expect that to decline in 2011. "Our ability to monetize this program means a minimal impact on our net average charge," H&R Block Retail Tax President Phil Mazzini told analysts on Dec. 7.
The high U.S. jobless rate, the cancellation of the Instant Money program, and the free filing promotion all make it difficult to predict how well the company will do this tax season, analysts say. "Everything is really up in the air in my opinion," Morningstar's Lekraj says.
Compass Point's Turner expects H&R Block will stop losing business to the bad economy, but says it will continue losing customers to do-it-yourself, computerized tax filing options. "I would expect their total filers to be down slightly year over year," he says.
Management is offering no guidance to investors. Analysts surveyed by Bloomberg estimate revenues will fall 1.4 percent, to $3.7 billion, in the 2011 fiscal year ending in April, following a 4.5 percent decline last year. Net income is estimated to fall 2.1 percent, to $469 million, after a 1.3 percent drop in 2010.
สรุป ที่ H&R Block โฆษณาว่าฟรีนั้น จริงๆ แล้วไม่ฟรี คือ ถ้ามี tax credit จะคิดเงินเป็นรายการไป คนมีครอบครัวส่วนมากจะได้ tax credit อย่างน้อย 2-3 รายการ หรือมากกว่านั้นถ้าซื้อบ้าน ซื้อรถ ฉนั้นลูกค้าลงเอยด้วยการจ่ายแพงกว่าที่ควรจะเป็น
Subscribe to:
Posts (Atom)